พรปีใหม่ ๒๕๕๗

ขอฝากพรปีใหม่ให้แก่เพื่อนชมรมคนเพียรทุกท่าน


เด็กหัดเดิน แม้จะล้มแล้วล้มเล่า แต่ก็ไม่เคยหยุดลุก หญ้าอ่อนแม้จะถูกหินทับ แต่ก็สงบตัว เพียงเพื่อรอวันแทงยอดขึ้นใหม่ ไม้ใหญ่แม้ถูกไฟแล้งเผาผลาญ แต่ก็พร้อมแตกหน่อเมื่อฤดูฝนมาเยือน พลังแห่งชีวิตนั้นไม่รู้จักระย่อท้อถอย อุปสรรคถึงจะมาขวางกั้นอันตรายถึงจะมาคุกคาม แต่ไม่เคยสยบชีวิตให้จำนน ภัยเหล่านี้ ทำได้อย่างมากเพียงปลิดชีวิตไปเท่านั้น แต่ตราบใดที่ชีวิตยังดำรงอยู่ ชีวิตย่อมหาทางหลุดรอด และเติบใหญ่ในที่สุด เมื่อปี ๒๕๒๕ มีการขุดพบซากหมู่บ้านดึกดำบรรพ์ในญี่ปุ่นอายุไม่ต่ำกว่า ๒,๐๐๐ ปี คนสมัยนั้นรู้จักทำนาแล้ว โดยเก็บผลผลิตไว้ในหลุมใต้ดิน หลุมหนึ่งยังมีเมล็ดข้าวหลงเหลืออยู่แต่ดำคล้ำและตายหมดแล้ว กระนั้นก็ยังมีเมล็ดพืชอยู่เมล็ดหนึ่ง รูปร่างแปลกกว่าเพื่อน ที่น่าอัศจรรย์ก็คือ เมื่อนำเมล็ดนี้ไปฝังเดินและรดน้ำ มันกลับงอกและไม่นานก็ผลิดอกงดงาม เมล็ดนั้นคือแมกโนเลีย พลังแห่งชีวิตนั้นยิ่งใหญ่นัก ความยิ่งใหญ่นั้นอยู่ที่การยืนหยัด รู้จัดอดทนและรอคอยได้ แม้แต่เวลา ๒,๐๐๐ ปีก็หยุดยั้งความปรารถนาที่จะเติบใหญ่ของแมกโนเลียต้นนั้นไม่ได้ แม้จะถูกบดอัดและกระหน่ำปานใด แต่แมกโนเลียก็ยังคงความอ่อนโยน และหยิบยื่นความงดงาม ให้ทุกคน ได้ชื่นชมอยู่นั่นเอง พลังและคุณสมบัติดังกล่าวคือ “พร” ที่ธรรมชาติมอบให้แก่ทุกชีวิต แน่ละ พร้อมๆ กันนั้น ธรรมชาติ ก็มอบความผันผวนปรวนแปร ปรปักษ์ และความทุกข์มาให้แก่เราด้วย แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มาช่วยให้ชีวิตเข้มแข็ง เติบใหญ่และงดงาม ต้นไม้ไม่ได้ปรารถนาแค่ฤดูฝน หากยังต้องการฤดูร้อน ฤดูหนาว รวมทั้งบางคราว ก็ประสงค์ความช่วยเหลือของไฟป่าด้วย ทำนองเดียวกัน ภูมิต้านทานในร่างกายเรา ก็ต้องการเชื้อโรค เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะ และความเจนจัด ภูมิต้านทานที่เหินห่างจากโรคติดเชื้อ บางครั้งอาจแปรปรวน และทำร้ายร่างกายของตัวเองได้ ความทุกข์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตก็จริงอยู่ แต่เราหาได้เกิดมาเพื่อจะทุกข์ไม่ ธรรมชาติประทานความทุกข์มาให้แก่เรา เพื่อผลักไสให้เราก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง และถ้าสามารถรุดไปสู่อิสรภาพ จนทุกข์แผ้วพานไม่ได้เมื่อไร ก็เป็นอันหมดหน้าที่ของความทุกข์เมื่อนั้น แต่ตราบใดที่ยังไปไม่ถึงจุดนั้น ความทุกข์ก็จะซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ จ้ำจี้จำไชเราไม่หยุดหย่อน ความทุกข์และอุปสรรคหมดพิษสง กลับกลายเป็นโอชะให้แก่ชีวิตได้ ก็เพราะธรรมชาติ มอบพรอีกอย่างหนึ่งมาให้แก่เรา นั่นคือความสามารถที่จะแปรเปลี่ยนความทุกข์ให้เป็นพลังสร้างสรรค์ได้ ด้วยเหตุนี้ ขยะปฏิกูลเมื่อถูกรากไม้ชอนไชไปถึง จึงกลายสภาพเป็นดอกไม้อันงดงามและผลไม้อันหอมหวาน พลังแห่งชีวิตหรือพรพิเศษเหล่านี้กำลังทำงานอยู่แล้วทุกขณะ ถ้าเราไม่ยอมจำนนต่อความทุกข์เสียก่อน เราย่อมสามารถหลุดรอดได้ในที่สุด แต่ก่อนอื่น เราต้องให้โอกาสแก่พรเหล่านี้ด้วย การให้โอกาสแก่ชีวิตของเรา เริ่มต้นด้วยการให้ชีวิตของเราได้คงอยู่ ตราบใดที่ชีวิตยังไม่ถูกปลิดไป ย่อมมีวันเวลาที่ชีวิตจะงอกงามขึ้นใหม่ ไม่ช้าก็เร็ว จะเป็นการดียิ่งขึ้นไปอีก หากเราไม่ปล่อยให้พลังชีวิตเหล่านี้ทำงานแต่ลำพัง แทนที่จะนิ่งดูดาย เราจะช่วยได้มาก หากเข้าไปเสริมพลังชีวิตอีกแรงหนึ่ง ร่างกายแม้จะต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บอยู่ตลอดเวลา กระนั้นสมุนไพร โยคะ ไท้เก็ก อาหารที่สมดุล และการพักผ่อนที่พอเพียง ก็ยังจำเป็นอยู่เพื่อเสริมภูมิต้านทานให้เข้มแข็งขึ้น ในทำนองเดียวกัน ไม่ว่ายามทุกข์หรือยามปกติสุข เราควรแสวงหาสิ่งดีงาม มาให้แก่ชีวิตจิตใจของเรา อย่างสม่ำเสมอ เพื่อจะได้มีพลัง “ย่อย” ความทุกข์ให้เป็นโอชะหล่อเลี้ยงชีวิตได้ดีขึ้น ยิ่งเวลาเป็นของมีค่า ก็ยิ่งจำเป็นต้องให้เวลาแก่จิตใจของเราด้วย การบำเพ็ญสมาธิ เจริญสติ สม่ำเสมอ นึกคิดในทางกุศล หมั่นมองด้วยปัญญา มีความปรารถนาดีต่อผู้อื่น เหล่านี้ล้วนเป็นโอสถเสริมสร้างพลังชีวิตอย่างวิเศษ ตรงกันข้ามการอยากได้ใคร่เด่น ไม่รู้จักพอ ความโกรธเกลียด ความลำพองตน มีแต่จะบั่นทอนพลังชีวิต พรนั้นเราไม่จำต้องขอหรือหาจากใครดอก ธรรมชาติมอบให้แก่เราอย่างเปี่ยมล้นมาตั้งแต่เกิดแล้ว ขอให้เรานำพรในตัวเรานั้น มาก่อประโยชน์สร้างสรรค์ให้เต็มที่เถิด ไม่เพียงแต่อายุ วรรณะ สุขะ และพละ เท่านั้น แม้กระทั่งความเจริญงอกงามของชีวิต อิสรภาพ และความสุข ที่แท้ก็สำเร็จได้ด้วยพรในตัวเรา เพราะถึงที่สุดแล้ว สิ่งประเสริฐเหล่านี้ มีอยู่แล้วในตัวเรา ขึ้นอยู่ว่าเราจะเข้าถึงหรือไม่ และเราใส่ใจที่จะดูแลรักษา และบำรุงพรดังกล่าวมากน้อยเพียงใด เพราะฉะนั้น จึงอยากเชิญชวนให้เราขอพรจากตัวเองบ้าง ถ้าจะขอให้ตนหลุดพ้นจากความทุกข์ เข้าถึงความสุขเกษมศานต์ ก็ขอให้หลุดพ้นด้วยพรและพลังในตัวเองเป็นสำคัญ ถ้าจะหวัง ก็พึงหวังว่า ขอชีวิตอย่าได้เหนื่อยอ่อน พรอย่าได้เหือดแห้งเลย.