ของคู่ครอบงำชีวิตเราอยู่

 

การเกิดดับของกาย

มีส่วนทำให้เกิดของคู่ในจักรวาลนี้
เช่น ความพอใจ-ความไม่พอใจ
ความดีใจ-ความเสียใจ
ความชอบ-ความไม่ชอบ
ความรัก-ความชัง
ความมืด-ความสว่าง
การขึ้น-การลง การเข้า-การออก
ผู้หญิง-ผู้ชาย
 
ของคู่ครอบงำชีวิตเราอยู่
แต่เราไม่เคยใช้สิ่งที่เป็นคู่เหล่านี้
ให้เป็นอุปกรณ์
ในการเพิ่มวิปัสสนาญาณ
 
เราปล่อยของคู่เหล่านี้
ผ่านไปทุกเวลานาที
โดยที่ไม่ใส่ใจมันเลย
 
แม้แต่เรานั่ง ของคู่ก็ปรากฏ
มีหนัก-มีเบา มีสบาย-ไม่สบาย
มีหายใจเข้า-มีหายใจออก
มีเย็น-มีร้อน มีอ่อน-มีแข็ง
มีหยุด-มีเคลื่อน
 
ของคู่ปรากฏตลอด
ในทุกส่วนที่เป็นรูป
เราต้องรู้การเกิดดับแบบสมมตินี้ก่อน
และต้องแปลงการเกิดดับ
ของของคู่แบบสมมติ ในกายของเรา
ให้เป็นนิมิตกรรมฐาน
 
เพียงแต่ใส่ใจ และรู้เข้าไป
ในสิ่งที่มันกำลังปรากฏคู่ของมัน
 
คู่หนึ่งเป็นคู่ดับ-อีกคู่หนึ่งเป็นคู่เกิด
คู่เกิดเป็นคู่ทุกข์-คู่ดับเป็นคู่ดับทุกข์
 
เช่น เรานั่ง ความหนักเกิด
แต่พอเราเคลื่อน ความหนักก็ดับ
พอหยุด หนักก็เกิด
 
ตัวเกิดทำหน้าที่ดับ-ตัวดับก็ทำหน้าที่เกิด
เป็นเหตุ เป็นปัจจัย
สิ่งหนึ่งก่อให้เกิดสิ่งหนึ่ง
ซ้ายก่อให้เกิดขวา-ขวาก่อให้เกิดซ้าย
ดับก่อให้เกิดเกิด-เกิดก่อให้เกิดดับ
สุขก่อให้เกิดทุกข์-ทุกข์ก่อให้เกิดสุข
มันสัมพันธ์กันตามหลักของปัจจยาการ
ตามหลักของปฏิจจสมุปบาท
 
เรามัวแต่เรียนปฏิจจสมุปบาท
ที่เป็นภาษาบาลี
เป็นทฤษฎีวิชาการไม่รู้เรื่อง
แต่หลักที่เกิดจากเหตุปัจจัยง่ายๆ
กลับมองไม่เห็น

พระพุทธยานันทภิกขุ