นามรูปคือมหาสมุทรทั้ง ๔ (นามรูป ตอนที่ ๒)

นามรูปเหมือนมหาสมุทรทั้ง ๔

ที่คุณพากันเป็นทุกข์กับเรื่องนั้นเรื่องนี้ คุณไม่ต้องไปแปลกใจหรอก มันเป็นธรรมดาที่เป็นไปตามกฎของมัน แต่วันไหนคุณไม่อยากเป็นทุกข์แล้วคิดจะออกมันนั้นสิ ถือว่าคุณมีโอกาสจะหาทางออกจากมันได้ แต่เพียงแต่คิดไว้เฉยๆ ก็ไม่มีประโยชน์และความหมายใดๆ แถมจะสร้างจิตนาการขึ้นมาให้รกสมองรกจิตเปล่าๆ ท่านผู้รู้ทั้งหลาย จึงเปรียบนามรูป เหมือนทะเลมหาสมุทรทั้งสี่ ได้แก่

กาโมฆะ มหาสมุทรแห่งกาม

มหาสมุทรแห่งกามเรียกว่า กาโมฆะ ห้วงน้ำคือกาม คือความคิดปรุงแต่งเรื่องความอยากความใคร่ชนิดต่างๆ มันไหลรื่นครุ่นคิดอยู่ในจิตในใจแทบตลอดเวลา

ทิฏโฐฆะ มหาสมุทรแห่งความเห็นผิด

มหาสมุทรคือทิฐิ เรียกว่า ทิฏโฐฆะ คือห้วงน้ำแห่งความคิดปรุงแต่งเห็นผิดในเรื่องราวต่างๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม ที่คนทั่วไปชอบคิดค้นหาเรื่องมาคุยมาถกเถียงกันได้ทั้งวันทั้งปี ทั้งชาติเลยละ

ภโวฆะ มหาสมุทรแห่งความพอใจไม่พอใจ

มหาสมุทรคือภพ เรียกว่าภโวฆะ คือคิดปรุงแต่งแล้วไม่สะใจ และโง่เขลาพอที่ไปยึดเอาเงาแห่งความคิดหรือนามรูปนั้นๆว่าเป็นความคิดเห็นของตนกูตัวตนของกู ใครจะมาคัดค้านไม่ได้ ไม่เห็นด้วยไม่ได้ กูไม่ยอมลูกเดียว มันก็จะรู้สึกไม่พอใจ รู้สึกโกรธเกลียดเคียดขุ่นกันเป็นเรื่องเป็นราวเลยทีเดียว เราเป็นเช่นนั้นกันบ้างหรือเปล่าในบางเวลา ถ้าเป็น ก็ให้รู้ว่า เราได้ตกน้ำไปลอยคอ จมผุดจมว่ายสำลักน้ำแห่งทิฐิอันโง่เง่าของตนเองเข้าไปแล้ว น่าสมเพชตัวเองไหมละ?

อวิชโชฆะ มหาสมุทรแห่งความไม่รู้

มหาสมุทรแห่งอวิชชา เรียกว่า อวิชโชฆะ ไอ้นี่คือต้นธารน้ำพุแห่งมหาสมุทรทั้งสามนั้นเลยทีเดียว ที่เรารู้จักกันดีว่า ห้วงอารมณ์แห่งความไม่รู้สึกตัว ไม่รู้เท่าทัน ไม่เฉลียวใจ ไม่ได้สติ ไม่มีปัญญา โง่เขลาหลงลืม งี่เง่าอะไรทำนองนั้น ฯลฯ ในตระกูลนี้แหละ ใครมีสมมุติทางนี้มาก ก็สรรหามาตั้งชื่อให้สะใจก็แล้วกัน

 

หลวงพ่อมหาดิเรก พุทธยานันโท