มะเร็งอารมณ์

มะเร็งในอารมณ์

เมื่อเกิดอารมณ์ทางจิต
เช่น ความรู้สึกไม่พอใจ
ปัญญาญาณ
ก็เห็นอาการของจิตก่อนว่า
จิตกำลังมีปฏิฆะหรือรู้สึกไม่พอใจ
 
ปัญญาก็เข้าไปเฝ้าสำรวจ
ตรวจสอบหาสาเหตุ
พินิจอาการของจิต
ด้วยดวงตาปัญญาญาณ
ซึ่งเป็นฝ่ายกุศลจิต
ก็เข้าไปจัดการกับปฎิฆะจิต
ซึ่งเป็นมโนกรรมฝ่ายอกุศล
ปฏิฆะจิตก็จะฝ่อหายไป
 
แต่หากอาการปฏิฆะจิต
คือความไม่พอใจ
นอนแช่อยู่ในจิตนานๆ
ด้วยอำนาจของอุปาทาน
คือความรู้สึกย้ำคิดย้ำทำ
ด้วยความไม่พอใจบ่อยๆ
อาการปฏิฆะจิตนั้น
ก็จะพัฒนาตัวเอง
เป็นความโกรธ และผูกโกรธ
แปรเปลี่ยนมาเป็นความเจ็บใจ
ซึ่งเป็นความเข้มข้นของตัณหา อุปาทาน
แปรสภาพมาเป็นมานะทิฐิตามลำดับ
 
หากอกุศลพัฒนาตัวมาถึงขั้นนี้
ปัญญาญาณจะต้องทำงานหนักมากขึ้น
เพราะจะต้องเข้าไปตรวจสอบหลายๆ รอบ
จึงจะฝ่อ จะหายไปได้
 
เหมือนกับเชื้อมะเร็ง
หากปล่อยให้เกิดมานาน
ไม่รีบเยียวยารักษาตั้งแต่ขั้นต้นๆ
มันก็จะพัฒนาตัวมัน
มีอาการเข้มข้น รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เป็นระยะที่ สอง สาม สี่ ไปเรื่อยๆ
ซึึึ่่งยากแก่การแก้ไขเยียวยา
มากขึ้นตามลำดับ
 
แม้อารมณ์ตัวอื่นๆ
เช่น ราคะจิต โทสะจิต โมหะจิต
ก็เช่นเดียวกัน
หากจัดการรักษาเยียวยาไม่ทัน
ก็มีวิวัฒนาการดุจเดียวกันกับปฏิฆะจิต
 
ดังนั้นอาการของอกุศลจิต
ที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง
ไม่ว่ามากหรือน้อย
จึงไม่ควรมองข้าม
พระพุทธยานันทภิกขุ