ความหลงก่อให้เกิดความรู้ได้อย่างไร

ถาม

ความหลงก่อให้เกิดความรู้ได้อย่างไร?

ตอบ

ความจริงแล้ว ความหลงและความรู้ต้องมาคู่กันเสมอ ถ้าไม่หลงก่อน ตัวรู้ก็ไม่เกิด เหมือนความมืดกับแสงสว่าง ต่างก็เป็นต้นกำเนิดของกันและกัน วิชชาและอวิชชาก็เป็นทำนองเดียวกัน จุดหมายที่เราต้องทำกันก็คือ จะปฏิบัติอย่างไร ให้เกิดสมดุลย์กันระหว่างความรู้ (วิชชา) และความหลง (อวิชชา) แม้ในกรณีอื่นๆก็เป็นลักษณะเดียวกันกับกฎธรรมชาติอันนี้ ทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม หนูไปนั่งพิจารณาคำกล่าวนี้ให้ถี่ถ้วนและแยบคายก็แล้วกัน แล้วจะเห็นสัจธรรมในเรื่องนี้ ไม่แน่นะ บางทีได้ดวงตาเห็นธรรมเอาง่ายๆก็ได้ เหมือนกับเหตุการณ์ที่พระอัญญาโกณทัญญะได้ฟังธรรของพุทธองค์สมัยนั้น ฟังจบแล้วท่านได้ดวงตาทันทีด้วยคำอุทานที่ว่า “สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นต้องดับเป็นธรรมดา ไม่มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นแล้วไม่ดับนั้น เป็นไม่มี”

ในทำนองเดียวกัน “ความรู้ใดเกิดขึ้นแล้ว ความรู้นั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา ความหลงใดเกิดขึ้นแล้ว ความหลงนั้นก็ย่อมไปเช่นกัน” แต่การรู้แล้วไม่หลง และหลงแล้วไม่รู้ต่างหากที่เป็นปัญหา การรู้แล้วหลง และหลงแล้วรู้ทันที นี้ต่างที่เป็นสัจธรรม เป็นความจริงตลอดกาล

ดังนั้นที่หนูหลงบ้างลืมบ้างสลับกันไป นั้นเป็นธรรมที่ถูกต้องแล้ว แต่กรุณาได้รักษาความสมดุลย์ของสภาวะทั้งสองอย่างเคร่งครัดและให้พอดีด้วย นี่คือหลักมัชฌิมาปฏิปทาพระพุทธองค์พร่ำสอนไงละหนู ดังนั้นที่เราต้องปฏิบัติไม่จบสิ้นสักที ก็เพราะยังสงสัยในความพอดีของสองสิ่งนี่แหละ เมื่อใดหายสงสัยในสองสิ่งนี้ ก็จะได้ดวงตาเห็นธรรมกันทุกคน