เทคนิคใหม่ในการเพิ่มกำลังสติ

ประเด็นรายงานผลการปฏิบัติ

หลวงพ่อครับ ขอรายงานอารมณ์ หลังจากไปเข้าคอร์สกับหลวงพ่อแล้ว ทำให้เข้าใจวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องมากขึ้นครับ เข้าใจเรื่องโยนิโส การปรับการปฏิบัติให้มีความเป็นกลางมากขึ้นในทุกๆด้าน ความอยากบรรลุธรรมลดลงไปมาก เหลือแต่ความพอใจในการปฏิบัติ เบากายเบาใจง่ายขึ้น ความรู้สึกไม่ตึง ปล่อยวางเรื่องที่ไม่เคยวางได้ ความโกรธน้อยลงไปมาก แค่ขุ่นใจก็เห็นแล้ว เข้าใจว่าทำไมคนนั้นเป็นอย่างนั้นคนนี้เป็นอย่างนี้โดยที่ใจรู้สึกเฉยๆ

ในรูปแบบทำก่อนนอนประมาณหนึ่งชั่วโมง และ ตอนเช้าอีกสองชั่วโมง ตอนขับรถไปทำงานและระหว่างทำงานก็ใช้อานาปา หลังจากที่สติชัดเจนขึ้นแล้ว ผมใช้ลมหายในการระลึกรู้สติ ซึ่งทำได้ง่ายขึ้นและเป็นอัตโนมัติได้ง่าย ซึ่งเมื่อก่อนสติยังไม่ชัด ทำอย่างไรก็ไม่สามารระลึกได้อัตโนมัติ
สามารถแก้อารมณ์ที่เป็นสุขได้แล้ว โดยการปรับการระลึกรู้ลมหายใจให้เป็นธรรมชาติคือ ถ้ารู้ตามลม ความสุขจะเกิด ถ้ารู้พอดีกับลม ความสุขจะเบาบางลง ถ้ารู้ก่อนหรือไปดักรู้ ความรู้สึกจะตึงท้องจะแข้ง ไม่ทราบว่าที่ผมใช้ลมหายใจแบบนี้ถูกต้องไหมครับ ขอหลวงพ่อแนะนำด้วยครับ

 

ตอบประเด็นรายงานผลปฏิบัติของคุณกฤษติน

เจริญพรคุณกฤษติน
รู้สึกชื่นใจ กับการรายงานความหน้าการปฏิบัติของคุณ หลังจากที่คุณเข้าร่วมรีทรีทกับหลวงพ่อมี่อาศรมมาตาครั้งนั้น จนถึงตอนนี้ คุณก็ยังทำการบ้านตามรูแปแบบทุกเช้าเย็น และมีการประเมินตนเอง ทุกๆ ขณะของการปฏิบัติงาน ทั้งในและนอกรูปแบบ ถือว่าเป็นการเจริญ โยนิโสมนสิการ ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของนักปฏิบัติ ที่ต้องการความหน้าในการทำวิปัสสนาแบบเคลื่อนไหว ตั้งแต่หลวงพ่อได้ให้คำแนะนำเรื่องนี้มายาวนาน ก็พบนักปฏิบัติเพียงไม่กี่คน ที่สามารถทำตามคุณสมบัติของสติปัฏฐาน 4 ข้อได้อย่างจริงจังคือ
1. จริงจังตั้งใจทำ
2. ต่อเนื่องในการตามรู้ศึกษา
3. สำรวจตรวจสอบกายใจ
4. พิสูจน์ความถูกต้อง เพราะเห็นการเปลี่ยนแปลงตนเองในทางก้าวหน้าเสมอ
คุณสามารถทำได้คุณสมบัตินี้ ค่อนข้างมาก ขอให้รักษาต่อไป

ประเด็นสำคัญที่อยากเพิ่มเติมก็คือ คุณดึงอานาปานสติ เข้ามาผสมผสานได้อย่างถูกจังหวะ เพราะเราต้องสำรวจตนเองว่า เราควรจะเสริมสร้างกำลังของสัมมาสติให้สูงกว่านี้ได้อย่างไร?

ตอนนี้หลวงพ่อกำลังทำการวิจัยเรื่องนี้อยู่พอดี โดยใช้ทฤษฎีการออกกำลังกาย 2 รูปแบบ เข้ามาประกอบการเจริญสติแบบเคลื่อนไหวคือ
1. สมาธิบำบัดแบบ SKT ของ รศ.ดร. สมพร กันทรดุษฎี
2. การออกกำลังแบบเคลื่อนไหว ทฤษฎีของ The five tibetan rites
ถ้าคุณพอมีเวลาว่าง กรุณาเข้าไปศึกษาทฤษฎีการออกกำลังกาย ทั้งสองรูปแบบนี้ด้วย เป็นประยุกต์เอา อานาปานสติภาวนา เข้ามาผสมผสานกับการเคลื่อนไหวของเราได้อย่างลงตัว

จากการที่หลวงพ่อได้ทำการวิจัยมานี้ ประมาณสองอาทิตย์แล้ว ปรากฏว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ มีความก้าวหน้าทั้งสุขภาพกำลังกาย และกำลังจิต และกำลังสติปัญญา ได้อย่างชัดเจน

ดังนั้น ถ้าเราเป็นนักปฎิบัติที่ดี และถูกต้อง อย่าไปคิดสรุปเอาง่ายๆ ว่า เรารู้แล้ว เห็นแล้ว เข้าใจแล้ว และหยุด หรือย่อหย่อนต่อการทำความเพียร นั้น เป็นการประมาทอย่างร้ายแรงสำหรับนักปฏิบัติแบบนี้ทีเดียว
สำหรับนักปฏิบัติมานานแล้ว ต้องรู้เรื่องขั้นตอนของการขัดเกลาจิตของตนเอง ให้หมดจดจากอาสวัฏฐานียะธรรม ให้ได้ทีเดียว มิฉะนั้น ถือว่าไปไม่ถึงเป้าหมายที่ต้องการ เพราะการทำลายอาสวะ มิใช่จะทำกันง่ายๆ ถ้ามี สติปัญญาในระดับเรานี้ ต้องทำกันไปเรื่อยๆ จนกว่า โลกุตตระปัญญาจะเกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์นั้นแหละ ถึงจะหยุดการเดินทางได้

ดังนั้น หลวงพ่อขอให้กำลังใจ ความพยายามของคุณต่อไป มีอะไรสงสัย ไลน์เข้ามาปรึกษาหลวงพ่อได้ตลอดเวลา เจริญพร

หมายเหต: ตามที่อ้างถึงทฤษฎีการออกกำลังกายแบบเคลื่อนไหว ที่ 2 แบบนั้น กรุณาเข้าไปเปิดดูรายละเอียดในเวป youtube ทั้งสองแบบเอาเอง

 

พระพุทธยานันทภิกขุ