
เผลอแล้วไม่เป็นไร เริ่มต้นใหม่ได้
บางคนถามว่า
ขณะที่นั่งหรือเดินจงกรมไปนานๆ
มันรู้สึกเบื่อหรือฟุ้ง จะแก้ไขอย่างไร?
มันรู้สึกเบื่อหรือฟุ้ง จะแก้ไขอย่างไร?
สำหรับเรื่องนี้เป็นปัญหาธรรมดามากๆ
ที่เราต้องเจอมันทุกครั้งที่เริ่มภาวนา
โดยเฉพาะสำหรับผู้ใหม่
ที่เราต้องเจอมันทุกครั้งที
โดยเฉพาะสำหรับผู้ใหม่
ความรู้สึกเบื่ออาจจะมาหลายสาเหตุ
วิธีแก้ ตอนแรกที่เริ่มต้นภาวนา
(สำหรับผู้เคยเจริญสติมาแล้วระดับหนึ่ง)
วิธีแก้ ตอนแรกที่เริ่มต้นภาวนา
(สำหรับผู้เคยเจริญสติมาแล้
คุณก็ต้องเรียบเรียงความรู้สึกตัว
ให้เป็นระเบียบก่อน
คือตั้งสติคอยเฝ้าดูความรู้สึก
แบบหยาบๆ ง่ายๆ ไปก่อน
ให้เป็นระเบียบก่อน
คือตั้งสติคอยเฝ้าดูความรู้
แบบหยาบๆ ง่ายๆ ไปก่อน
ความรู้สึกตัวตรงไหนชัด
ก็สังเกตจุดนั้นไปเรื่อยๆ
การเคลื่อนไหวแต่ละครั้ง
ให้ตั้งสติรู้ชัดๆเสมอ
ถ้าเผลอขยับขับเคลื่อนกาย
ส่วนไหนไม่ชัด
ให้ตั้งใจขยับใหม่ แบบทบทวน
การตั้งต้นรู้ตัวใหม่เสมอ
อย่าคิดว่าไม่จำเป็น
สำหรับหลวงพ่อเห็นว่า
จำเป็นมากทีเดียว
ภาษาฝรั่งเรียกว่า Double check
เขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก
ทางจิตภาวนา ก็เช่นเดียวกัน
เมื่อเผลอเคลื่อนไหวเมื่อไร
อย่ารีบปล่อยผ่าน
อย่ารีบปล่อยผ่าน
พอรู้ตัวว่าเผลอเคลื่อนไหว
กลับมาตั้งต้นใหม่เสมอ
อาการแบบนี้เรียกว่า double check
สติระดับรูปนาม
แม้แต่ทางจิตก็ทำเช่นดียวกัน
เมื่อเผลอคิด ก็กลับมารู้ตัวใหม่
แต่มิใช่กลับมาคิดใหม่อีกครั้งนะ
เราคิดอะไรไป มันจะพันกันยุ่งเลย
เมื่อเผลอคิด ก็กลับมารู้ตัวใหม่
แต่มิใช่กลับมาคิดใหม่อีกคร
เราคิดอะไรไป มันจะพันกันยุ่งเลย
เราไม่ปฏิเสธที่จะคิด
แต่ให้รู้ทันให้มากที่สุด
เช่น มันเผลอคิดไปสิบครั้ง
เรารู้ทันตั้งแต่หกครั้งขึ้นไป
ถึงสิบครั้ง ก็ถือว่าใช้ได้
ถึงสิบครั้ง ก็ถือว่าใช้ได้
แต่สติตามรู้ทันต่ำกว่าห้าครั้ง
ถือว่าเสี่ยงอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ
ถือว่าเสี่ยงอันตรายมากขึ้น
นี่สำหรับผู้ยังอยู่ในขั้นต้น
หรืออารมณ์รูปนามนะ
หรืออารมณ์รูปนามนะ
แต่ถ้าคุณรู้ไปถึงระดับปรมัตถ์แล้ว
คุณจัดการกับความคิดเป็น
ก็ไม่น่าห่วง
คุณจัดการกับความคิดเป็น
ก็ไม่น่าห่วง
เพราะคุณสามารถคิดก็ได้
ไม่คิดก็ได้
ปรมัตถ์ระดับต้น
ที่สำคัญก็คือคุณรู้ปรมัตถ์
ระดับไหนเท่านั้น
ถ้าระดับต้นๆ
ก็จัดการกับความคิด
ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
เหมือนเด็กเลี้ยงควาย
ที่ยังไม่รู้นิสัยควาย
มันจะตามควายไม่ทัน
เขาอาจจะมัดมันติดหลัก
ให้กินหญ้าอยู่กับที่
หรือดีขึ้นมาหน่อย
ก็กักบริเวณที่ต้องการ
หรือดีขึ้นมากว่านั้นอีก
ก็อาจขี่หลังมันเลย
แต่ถ้าแดดออกจ้าๆ
คุณก็ร้อนหน่อยเท่านั้นเอง
ปรมัตถ์ระดับกลาง
แต่สำหรับผู้ปฏิบัติ
ที่ได้สัมผัสปรมัตถ์ขั้นกลางๆ
ก็อาจปล่อยควายและเล็มหญ้า
ไปตามสบาย
ไม่ไปยุ่งกับมันมากนัก
ก็อาจปล่อยควายและเล็มหญ้า
ไปตามสบาย
ไม่ไปยุ่งกับมันมากนัก
พอมันจะออกไป
นอกบริเวณที่ต้องการ
ก็ตะล่อมกลับเข้ามา
พอมันกินหญ้าอยู่กับที่เพลินๆ
เราก็พักผ่อน
หางานอะไรทำเล่นไปเรื่อยๆ
เราก็พักผ่อน
หางานอะไรทำเล่นไปเรื่อยๆ
สายตาก็คอยชำเลืองดูควาย
เป็นบางครั้งบางคราวก็พอ
เราก็สามารถทำงานไปได้
หลายอย่างในเวลาเดียวกัน
แต่แบบนี้
สำหรับคนชำนาญแล้วเท่านั้น
คนที่จัดการจิตยังไม่เป็น
อย่าพึ่งรีบร้อนปล่อยควาย
ปล่อยเชือกเด็ดขาด
เดี๋ยวควายหาย
คุณก็วุ่นวายเท่านั้นเอง
ระวังสติหาย
สำหรับคนที่รู้ปรมัตถ์
เบื้องสูงแล้ว
เขาไม่ต้องเลี้ยงควายเอง
เขาเป็นเหมือนเจ้าของควาย
ที่มีเงินแล้ว
จะจ้างใครมาเลี้ยงให้ก็ได้
ถ้าคุณยังไม่ได้เป็นเจ้าของ
ชีวิตจิตใจของตัวเอง
ร้อยเปอร์เซ็นต์
คุณอย่าเสี่ยงเล่นกับความคิด
ก็แล้วกัน
อันตรายนะจะบอกให้?
ก็แล้วกัน
อันตรายนะจะบอกให้?
Direk Saksith
www.buddhayanando.com
f: พระพุทธยานันทภิกขุ, พลิกใจให้ตื่นรู้,
หลวงพ่อมหาดิเรก พุทธยานันโท, เซนสยาม,
Dynamic Meditation (นวัตกรรมแห่งสติ)