กฎเหล็กของการเก็บอารมณ์

กฏสำคัญ 10 ข้อ ของการเก็บอารมณ์

 

1. เข้าใจก่อนว่า เก็บอารมณ์ไปเพื่ออะไร ตอบว่า เพื่อพัฒนากำลังของสติ สมาธิ สัมปชัญญะ หรือความตั้งใจตามดูความรู้สึกตัวทั่วพร้อมให้เข้มแข็ง ต่อเนื่อง เพราะธรรมสามประการนี่เป็นเหตุให้เกิด สัมมาปัญญา ได้ง่าย สัมมาปัญญา คือตัวรู้ที่มารู้เท่าทันความคิดได้ทันเหตุการณ์ คือความคิดเกิดแล้ว มารู้ทันที มิใช่ว่า ความคิดปรุงแต่งเกิดตั้งนานแล้วเพึ่งรู้ตัว นี้เรียกว่า ไม่ร้เท่าทัน มิใช่สัมมาปัญญา

2. ต้องมีเวลาให้กับเรื่องนี้ชัดเจน ต้องการกี่วัน หรือกี่ชั่วโมง เพื่อจะไม่ต้องเอาเรื่องอื่นมายุ่งด้วย ลงมือตามดูกายใจให้ต่อเนื่องอย่างเดียว ไม่จำเป็น ไม่พูดไม่คุย กินน้อย นอนน้อย เจริญสติมากๆ

3. ขณะทำความเพียร นั่งทำจังหวะ มากกว่าเดิมจงกรม ขณะทำต้องตามดูอาการของทุกขเวทนาต่างๆ ทางกายเป็นหลักถึง 70% อีก 30% ให้ชำเลืองดูอาการของจิตเป็นพักๆ อย่าเพ่งจ้อง แต่สังเกตสบายๆ แต่ไม่ละสายตา จากกายใจเท่านั้นเอง เหมือนแม่ดูแลลูก ไม่บังคับแต่ดูแบบไม่ละสายตาเท่านั้นเอง

4. ตามแก้ไขทุกขเวทนาต่างๆ อย่างมีสติตามรู้ เพราะไตรลักษณ์มันทำงานตลอดเลา อย่าเผลอส่งจิตออกนอกนาน มิฉะนั้น จะไม่เห็นการทำงานของไตรลักษณ์ เช่นนั่งสักพัก ตะโพกก็รู้สึกหนักแล้ว เราก็ตามดู จนทำท่าจะนั่งแช่ หรือทนไม่ไหว ก็ตามรู้อาการนั้นๆ ให้ชัดๆ แล้วขยับปรับทิ้งออกไป ตามแก้ทุกข์ในอิริยาบถ อย่างนี้ไปเรื่อยๆ

5. ไม่จำเป็น อย่าหลับตา เพราะทันที่หลับตาลง จิตจะสร้างนิมิตทางใจขึ้นมา จะป็นภาพคิดหรือเป็นความรู้สึกชอบ ไม่ชอบ หรือเฉยๆ ก็ได้ นานเข้าก็จะป็นภาพบางๆ ปรากฏเรื่อยๆ จนเราลืมตัว จิตที่มีกำลังรู้ไม่พอ ก็จะเผลอหลุดเข้าไปในความคิดมิติที่ละเอียด แล้วเราก็เสพสุขจากมัน

6. ต้องการเก็บอารมณ์ที่บ้านก็ได้ แต่ต้องเป็นคนปฏิบัติที่เจริญสติมาระดับที่เห็นรูปนามได้แล้ว เพราะคนที่ยังไม่เห็นรูปนาม ก็ยังไม่สามารถแยกรูปแยกนามได้ คือยังแยกความรู้สึกตัวกับความคิดออกจากกันไม่ได้ เมื่ออยู่คนเดียว ก็จะเข้าไปในความคิดโดยไม่รู้สึกตัว เมื่อความคิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งเกิดขึ้น ก็เผลอเข้าไปในความคิด จิตยังไม่มีสติหรือนามเป็นที่พึ่ง ดังนั้น เบื้องต้นต้องแน่ใจก่อนว่า เห็นรูปเห็นนามถูกต้องหรือเปล่า มิฉะนั้น จะถูกความคิดและนิวรณ์ต่างๆ ดึงไปคิดเรื่องราวต่างๆ ก็ไปไม่รอด ดังนั้น จึงเก็บตัวอยู่คนเดียวไม่ได้ด้วยเหตุนี้

7. ก่อนเข้าเก็บต้ว ต้องเก็บสื่อต่างๆ ไว้ให้ห่างตัว เช่น โทรศัพท์มือถือ ทีวี เครืองเล่นหูฟังชนิดต่างๆ

8. ตัดขาดการติดต่อพูดคุยกับคนอื่นหรือปิดวาจา ถ้าจำเป็นก็พูดได้เฉพาะที่จำเป็นจริงๆ เพราะการพูดคุยทำให้สำรวมจิตได้ยาก ฟุ้งซ่านได้ง่าย

9. มีครูอาจารย์สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา เช่น พี่เลี้ยง พระอาจารย์วิปัสสนาที่รู้จักวิธีแก้อารมณ์ หรือเพื่อนกัลยาณมิตรผู้มีประสบการณ์ทางวิปัสสนามาก่อน

10. ความสงัดวิเวกเป็นสิ่งจำเป็น หากสถานที่เก็บตัว ไม่เป็นส่วนตัว ไม่สงัดเพียงพอ มีเสียงและผู้คนไม่สงบอยู่ใกล้ การเก็บตัวก็ไม่ค่อยได้ผล เพราะจิตเราจะวิ่งออกไปรับอารมณ์ข้างนอกบ่อย ทำให้เผลอตัวง่าย ดังนั้น ก่อนเก็บตัว ควรมีการวางแผนล่วงหน้าไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อจัดหาสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเข้าเงียบให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

ประการสำคัญคือมีกัลยาณมิตร ที่เข้าใจจุดประสงค์ของเรา แล้วคอยเอื้ออำนวยความสะดวกต่างๆ ให้เราได้ทุกเรื่อง ถ้าเราเจอกัลยาณมิตรแบบนั้น ก็ถือว่า โชคดีไป

พระพุทธยานันทภิกขุ